“นิพนธ์”ตรวจภัยแล้งสุพรรณฯ มั่นใจปีนี้ไม่ขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค -บริโภค และน้ำเกษตร พร้อมกำชับป้องกันไฟป่า-หมอกควันอย่างใกล้ชิด

“นิพนธ์”ตรวจภัยแล้งสุพรรณฯ มั่นใจปีนี้ไม่ขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค -บริโภค และน้ำเกษตร พร้อมกำชับป้องกันไฟป่า-หมอกควันอย่างใกล้ชิด

 


ที่อ่างกักเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างกักเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว โดยมีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ผอ.ศูนย์.ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว นายอำเภอด่านช้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามสถานการณ์


นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญปัญหาภัยแล้งมาโดยตลอด และตนในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน นั้น มีความตั้งใจจะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด จากการรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ปริมาณเก็บกักน้ำในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว มีความจุที่ระดับน้ำสูงสุด 299,000 ล้าน ม.3 โดยวันนี้มีปริมาตรน้ำเก็บกัก 296 ล้าน ลบ.ม. (99.29%) และปริมาณการใช้น้ำ 256 ล้าน ลบ.ม. (99.18%) ซึ่งคาดการณ์ว่ามีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ ทั้งในด้านการอุปโภคบริโภค และการทำการเกษตร จึงไม่มีความกังวลในประเด็นดังกล่าว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือโดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยแล้ง ปี 2565 และศูนย์อำนวยการและประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ภัยแล้ง) ระดับพื้นที่ จัดเตรียมกำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานตามแผนเผชิญเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ยังติดตามและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยทุกปี พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีมักจะประสบปัญหาความแห้งแล้งทำให้เอื้อต่อการเกิดไฟป่าได้ง่าย ซึ่งการเกิดไฟป่าแต่ละครั้งเป็นอันตรายและสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของประชาชนและราชการ และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตมลพิษหมอกควัน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต สุขภาพอนามัยของประชาชน จึงให้ทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกันดูแลให้คำแนะนำและประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้ทั่วถึงและรวดเร็ว รวมถึงเผยแพร่ความรู้ ให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากอัคคีภัย ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย


นายนิพนธ์ ได้กล่าวฝากทิ้งท้ายถึงความปลอดภัยทางถนนว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมมือกันทำให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตนได้กำชับให้ใช้กลไกจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ช่วยกันเร่งสร้างจิตสำนึกและความตระหนักในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น จากการขับรถที่ไม่มีวินัยและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด พร้อมเร่งดำเนินการปรับปรุง แก้ไขด้านกายภาพของถนน เครื่องหมายจราจร สัญญาณไฟ และป้ายเตือน ให้มีความชัดเจนบริเวณทางข้าม ทางร่วม ทางแยก และจุดคับขันต่างๆ เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้ความระมัดระวังและลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ จึงถือโอกาสนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ในการร่วมกันสร้างวินัยจราจรที่ดีในการใช้รถใช้ถนน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและไม่ให้เกิดการสูญเสียต่างๆ เกิดขึ้นบนท้องถนนอีกต่อไป

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา