ปทุมธานี – มรภ.วไลยอลงกรณ์ จัดพิธีวางพวงมาลา พระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ 2565

ปทุมธานี – มรภ.วไลยอลงกรณ์ จัดพิธีวางพวงมาลา พระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ 2565
************************

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ นายกสภามหาวิทยาลัย ประธานในพิธีวางพวงมาลา พระอนุสาวรีย์สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร องค์ประทานกำเนิดมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี ผศ.ดร.สุพจน์ ทรายแก้ว อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวรายงาน ซึ่งมีหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ของทุกปี

ซึ่งภายในงานได้จัดพิธีทำบุญเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ พร้อมทั้งถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป นอกจากนี้ยังได้มีการจัดนิทรรศการวิชาในรูปแบบออนไลน์ สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ทรงเป็นพระราชธิดา ลำดับที่ 43 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประสูติวันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2427 และพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ตลอดจนผู้ใกล้ชิด พระกรุณาธิคุณของพระองค์นั้น ทรงมีพระเมตตาต่อการศึกษาของกุลสตรีไทย จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2475

ปัจจุบันคือ เลขที่ 153 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยย้ายนักเรียนฝึกหัดครูและนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.7-8) มาจากโรงเรียนเบญจมราชาลัย อาจารย์ใหญ่คนแรกคือ อาจารย์นิลรัตน์ บรรณสิทธิ์วรสาสน์ โรงเรียนใช้ชื่อย่อว่า พ เป็นสัญลักษณ์ และสีเขียว เป็นสีประจำโรงเรียนเนื่องจากเป็นสีประจำวันประสูติของพระองค์ โดยในปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ มีการเปิดการเรียนสอนทั้งหมด 7 คณะ และ 1 วิทยาลัย ทั้งระดับปริญญาตรี – ปริญญาเอก รวมทั้งประกาศนียบัตรวิชาชีพครู เป็นสถานศึกษาที่ให้ความรู้ สร้างคน สร้างอาชีพ และรายได้ เพื่อการพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น ให้มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน