เชียงใหม่-โคแฟค (ประเทศไทย) จับมือมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และภาคีเครือข่าย จัดเวที Digital Thinkers Forum ครั้งที่ 33 ผนึกพลังภาคี สร้างภูมิคุ้มกันสังคมไทย รับมือ “ข้อมูลหลอน” ในยุค AI

โคแฟค (ประเทศไทย) ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเครือข่ายภาคีที่ร่วมก่อตั้งและพัฒนาแพลตฟอร์มโคแฟค เตรียมจัดเวทีเสวนานักคิดดิจิทัล Digital Thinkers Forum ครั้งที่ 33 ในหัวข้อ “รับมือข้อมูลหลอนด้วยปัญญารวมหมู่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในยุค AI” (AI Hallucinations VS. Digital Resilience) ในวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมวินทรี ซิตี้ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่

การจัดเวทีครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายสำคัญ ได้แก่ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองค์การสื่อสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ รายงาน และตรวจสอบข้อมูลข่าวลวงในยุคดิจิทัล

ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายภาคส่วน ทั้งในด้านที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และในด้านที่ถูกนำไปใช้เพื่อจงใจหลอกลวง สร้างข้อมูลเท็จ หรือ “ข้อมูลหลอน” (AI Hallucinations) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และการตัดสินใจของประชาชนในสังคม เวที Digital Thinkers Forum ครั้งนี้จึงมุ่งเน้นการสร้าง “ภูมิคุ้มกันทางข้อมูล” (Digital Resilience) ผ่านพลังของปัญญารวมหมู่และความร่วมมือระหว่างสื่อ นักวิชาการ ภาครัฐ และภาคประชาชน

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุริยจรัส เตชะตันมีนสกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน “ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทอย่างลึกซึ้งต่อการทำงาน การสื่อสาร และการตัดสินใจของสังคม ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า AI Hallucination หรือ “ความหลอนของข้อมูล” ไม่ได้เป็นเพียงประเด็นทางเทคนิค แต่เป็นความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ความถูกต้องทางวิชาการ และความรับผิดชอบต่อสังคมในวงกว้าง กิจกรรมในวันนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ได้มุ่งเพียงการอธิบายว่า AI หลอนคืออะไร แต่มุ่งไปที่การ สร้างความเข้าใจเชิงลึก การตั้งคำถามอย่างมีวิจารณญาณ และการออกแบบแนวทางรับมือที่เหมาะสมกับบริบทการทำงานจริง โดยเฉพาะในภาคการศึกษา ภาคนโยบาย และภาควิชาชีพ โคแฟคและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รวมถึงภาคเครือข่าย เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นนี้ จึงเปิดพื้นที่ทางปัญญาให้เกิดการแลกเปลี่ยนอย่างจริงจัง พร้อมทั้งเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาเข้ามาร่วมกันถอดบทเรียนและมองไปข้างหน้า รวมถึงกลยุทธ์การจัดการ การตรวจสอบ และการ cross-check ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญา ให้กับผู้เข้าร่วมทุกท่าน สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง และต่อยอดสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ของการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ”

 
จากนั้น เป็นช่วง Cofact Talk ภายใต้หัวข้อ “รับมือข้อมูลหลอนด้วยปัญญารวมหมู่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในยุค AI” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ได้แก่ ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม กรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส. นายแพทย์ธีรพัฒน์ ตันพิริยะกุล อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์ ดร.กมลภพ ศรีโสภา ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ หาวิทยาลัยเชียงใหม่ คุณกนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส  และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณภัทร เรืองนภากุล คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

จากนั้นเป็นกิจกรรมระดมสมองในหัวข้อเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและข้อเสนอเชิงนโยบายในการรับมือข้อมูลหลอน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รดี ธนรักษ์ หลักสูตรนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ทำหน้าที่ดำเนินรายการ ก่อนจะประมวลสรุปข้อเสนอจากเวที โดย คุณสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค (ประเทศไทย) ซึ่งจะกล่าวถึงทิศทางการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายในการเสริมสร้างระบบนิเวศการตรวจสอบข้อมูล และการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและมีภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน

เวที Digital Thinkers Forum ครั้งที่ 33 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการรวมพลังความรู้จากทุกภาคส่วน เพื่อรับมือความท้าทายของยุคปัญญาประดิษฐ์ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สังคมไทยสามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างรู้เท่าทันและปลอดภัย

พัฒนชัย/เชียงใหม่