ผู้ตรวจการอัยการลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อให้สอดคล้องนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด

ผู้ตรวจการอัยการลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อให้สอดคล้องนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด

นายสัญจัย. จันทร์ผ่อง ผู้ตรวจการอัยการ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานอัยการในพื้นที่ภาค 8 สำนักงานคดีศาลสูงจังหวัดระนอง สำนักงานอัยการจังหวัดระนอง สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง และสำนักงานอัยการ รายการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดระนอง) วันที่ 18-19 ธันวาคม 2568 โดยมี นายสุวิชัย แก้วชูทอง อัยการศาลสูงจังหวัดระนอง นายอติคุณ พ่วงพร้อม อัยการจังหวัดระนอง นางภิญญดา เพชรทอง อัยการคดีเยาวชนและครับครัวจังหวัดระนองและนายชาตรี กุณฑลเบ็ญจะ อัยการ คุ้มครองสิทธิ์ และช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดี จังหวัดระนอง พร้อมทั้งบุคลากรในพื้นที่ร่วมต้อนรับ และรายงานผลการปฏิบัติราชการ

การลงพื้นที่ตรวจราชการในครั้งนี้ ผู้ตรวจการอัยการได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่างๆ ตามแผนปฏิบัติราชการ พ.ศ. 2569 พร้อมทั้งได้กำชับให้ข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรปฏิบัติงานตามระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด และได้เน้นย้ำเรื่องการบันทึกข้อมูลใน ระบบ e – survey และสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งได้รับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อคิดเห็นของสำนักงานอัยการในพื้นที่เกี่ยวกับอัตรากำลังของข้าราชการอัยการและข้าราชการธุรการ อุปกรณ์สารสนเทศและ การสื่อสาร อาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัย ยานพาหนะที่ใช้ในราชการที่มีไม่เพียงพอ ตลอดจนปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เช่น ค่าธรรมเนียมคดีความแพ่ง การดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ การดำเนินคดีอาญา เป็นต้น ซึ่งจะได้สรุปข้อมูลดังกล่าวส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป นอกจากนั้นยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของโครงการก่อสร้างทั้งที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการ และมีปัญหาผู้รับจ้างทิ้งงานอีกด้วย

โอกาสนี้ ผู้ตรวจการอัยการได้ชื่นชมและให้กำลังใจบุคลากรที่ร่วมกันปฏิบัติงาน ในการให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็น สิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความร่วมมือกันในการพัฒนาองค์กรอัยการภายใต้แนวคิด “ซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม สร้างความยุติธรรมแก่ประชาชน”