เชียงใหม่-“ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” มากกว่าความอบอุ่น เติมเต็มพลังใจ เสริมสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
การบริการด้านสาธารสุขที่เพียบพร้อม อาจไม่ได้เข้าถึงกับคนไทยทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่พื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่เข้าถึงยาก แม้กระทั่งการเดินทางไปสถานีอนามัย โรงพยาบาลศูนย์ประจำพื้นที่ล้วน แต่ต้องใช้เวลานานเหล่านี้คือเรื่องที่เป็นไปได้ยากแม้กระทั่งในโลกปัจจุบัน

จากจุดเริ่มต้นของโครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” ของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ผสานความร่วมมือกับ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสานต่อปณิธานแห่งการ “ให้” ของคุณเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนาภักดี ที่ได้กล่าวไว้ว่า “คนไทย ให้กันได้” อันเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยที่มีต่อพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบอย่างรุนแรงจากภัยพิบัติหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นับเป็นเวลา 26 ปี ของคาราวานผ้าห่มผืนเขียวได้ออกเดินทางส่งมอบรอยยิ้ม และความอบอุ่นภายใต้ “ผ้าห่มผืนเขียว” ให้ทุกคนได้บรรเทาความหนาวเย็น ปีละจำนวน 200,000 ผืน นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา จำนวนกว่า 5,200,000 ผืน พร้อมกับมอบโอกาสในการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องไม่เพียงแค่ส่งมอบความอบอุ่นแล้ว ยังได้ขยายความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อ การดำรงชีพ ตลอดจนการดูแลเรื่องการศึกษา กีฬา การพัฒนาชุมชนส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพและสาธารณสุขที่เล็งเห็นถึงปัญหาด้านการเข้าถึงบริการทางสุขภาพของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ร่วมกับ หน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัด หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ อาทิ ช้างคลินิกเคลื่อนที่ โรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ลงพื้นที่พร้อมกับคาราวานผ้าห่มผืนเขียว เพื่อบริการตรวจสุขภาพให้กับพี่น้อง 15 จังหวัด ตั้งแต่ตรวจวัดโรคทั่วไป วัดความดัน วัดปริมาณน้ำตาลในเลือด โรคผิวหนัง โรคตา ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบริการฝังเข็มแก้อาการปวด และบริการตัดผมอีกด้วย

โดยในปี 2565 โครงการ “ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว” โดย มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก ได้พบผู้ป่วยคอพอก ที่ อ.เมืองอาย จ.เชียงราย ซึ่งผู้ป่วยมีก้อนบริเวณคอขนาดใหญ่ อันเนื่องจากอาการต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จากนั้นได้ดำเนินการส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ทำการผ่าตัดรักษาจากทีมแพทย์เฉพาะทางที่เชียวชาญ จนผู้ป่วยได้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

รศ.นพ.ณัฐพงศ์ โฆชุณหนันท์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ และอาจารย์ประจำหน่วยระบบต่อไร้ท่อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการรักษาของผู้ป่วยกรณีนี้ว่า “คนไข้มีอาการคอพอกขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดโตตั้งแต่อายุ 20 ปี ต่อมไทรอยด์จะโตเร็วขึ้นในช่วง 2 ปีหลัง นอกจากนี้มีอาการหายใจติดขัด บางครั้งมีอาการกลืนอาหารลำบาก นอกจากนึ้คนไข้ยังมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจด้วย”

ผศ.นพ.เศรษฐพงศ์ บุญศรี รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ และอาจารย์ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า “ผู้ป่วยรายมีก้อนไทรอยด์ที่โตอาจกดทับทางเดินหายใจ เลยต้องใช้วิธีนำสลบโดยแก๊สนำสลบและใส่ท่อช่วยหายใจผ่านกล้องส่องกล่องเสียงซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ผู้ป่วยมีอาการลิ้นหัวใจห้องขวารั่ว ส่งผลทำให้หัวใจห้องขวาบน และหัวใจห้องขวาล่างโต ตลอดการผ่าตัดไม่มีภาวะแทรกซ้อน”
นับเป็นการตอกย้ำปณิธานแห่งการ “ให้” และการ “แบ่งปัน” ภายใต้ “ผ้าห่มผืนเขียว” สัญลักษณ์ที่เป็น “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน”








Users Today : 1201
Users Yesterday : 1072
Views Today : 8399
Who's Online : 16