ปทุมธานี นายกแจ๊ส นายกยุทธ จัดยิ่งใหญ่ทอดกฐินสามัคคีวัดกล้าชอุ่ม ถวายเงินสร้างเมรุ

ปทุมธานี นายกแจ๊ส นายกยุทธ จัดยิ่งใหญ่ทอดกฐินสามัคคีวัดกล้าชอุ่ม ถวายเงินสร้างเมรุ

 

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 09.09 น.
วัดกล้าชอุ่ม ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง นายทองสุก แสนจักร สมาชิกสภา อบจ.เขตเลือกตั้งที่ 3 อ.คลองหลวง นางสาวพรปริญญา ศรีจันทร์ สมาชิกสภา อบจ.เขตเลือกตั้งที่ 5 อ.คลองหลวง นายสัญชาติ คุระนันท์ สมาชิกสภา อบจ.เขตเลือกตั้งที่ 7 อ.คลองหลวง คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองคลองหลวง เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองคลองหลวง และ พุทธศาสนิกชน จัดขบวนมีนางรำแห่สวยงามเข้า ร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสร้างเมรุวัดกล้าชอุ่ม หลายพันคน โดยมี พระใบฎีกาจำเริญ ติกฺขปญฺโญ (พูลแก้ว) เจ้าอาวาสวัดกล้าชอุ่ม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมทั้งมีผู้มีจิตศรัทธาตั้งโรงทานจำนวน 105 โรงทานด้วยกัน

 
การประกอบพิธีทอดกฐินสามัคคีวัดกล้าชอุ่ม ประจำปี พ.ศ. 2568 มีคณะผู้มีจิตศรัทธาและประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี อาทิ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง นางสาวพรปริญญา ศรีจันทร์ สมาชิกสภา อบจ.เขตเลือกตั้งที่ 5 อ.คลองหลวงและชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีปัจจัยถวายรวมทั้งสิ้นจำนวนกว่า 1,197,444 บาท โดยมีประชาชนและชุมชนต่างๆในอำเภอคลองหลวง มาร่วมทำบุญอย่างพร้อมเพรียงกัน

 
พระใบฎีกาจำเริญ ติกฺขปญฺโญ (พูลแก้ว) เจ้าอาวาสวัดกล้าชอุ่ม กล่าวสัมโมทนียกถาตอนหนึ่งว่า “กฐิน” เป็นคำศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียกผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้ โดยคำว่าการทอดกฐิน หรือการกรานกฐิน จัดเป็นสังฆกรรมประเภทหนึ่งตามพระวินัยบัญญัติเถรวาทที่มีกำหนดเวลา คือพระสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมนี้ได้นับแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ และอนุเคราะห์ภิกษุผู้ทรงคุณที่มีจีวรชำรุด ดังนั้นกฐินจึงจัดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังฆกรรมของพระสงฆ์โดยจำเพาะ ชาวพุทธเรารู้กันทั่วไปว่าการทอดกฐินเป็นบุญพิเศษ เพราะจำกัดด้วยเวลาและการถวายให้กับพระภิกษุผู้จำพรรษาในวัดที่ทอดกฐินเท่านั้น

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน