ตราด-กรรมาธิการวิสามัญศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU ๒๕๔๓และ MOU ๒๕๔๔ วุฒิสภา ลงพื้นที่บ้านหาดเล็ก จ.ตราด เพื่อรับทราบข้อมูลและปัญหาที่เกี่ยวข้องที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

ตราด-กรรมาธิการวิสามัญศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU ๒๕๔๓และ MOU ๒๕๔๔ วุฒิสภา ลงพื้นที่บ้านหาดเล็ก จ.ตราด เพื่อรับทราบข้อมูลและปัญหาที่เกี่ยวข้องที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

.
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพดล อินนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา วุฒิสภา พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อศึกษาดูงานและติดตามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาหลักเขต 73 ที่ชายแดนไทย – กัมพูชา จากบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2544 เพื่อรับทราบปัญหาที่เกี่ยวข้องจากหน่วยราชการและประชาชนในพื้นที่ โดยมี น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด นายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ น.ท.คุณวุฒิ รุ่งรัศมี ฉก.นย.182 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตราด ด่านศุลกากร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 จากนั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา วุฒิสภา ยังได้เดินทางลงพื้นที่หลักเขต 73 ซึ่งเป็นหลักเขตสุดท้ายทางบกที่กั้นเขตแกนไทย – กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพดล อินนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา วุฒิสภา กล่าวว่า วุฒิสภาได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา วุฒิสภา ชุดนี้ขึ้น เพื่อศึกษาข้อดีข้อเสียของการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 และจัดทำข้อมูลนำเสนอต่อวุฒิสภา เนื่องจากประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ MOU 2543 และ MOU 2544 ซึ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาศึกษาในเรื่อง ดังกล่าวได้ข้อมูลอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และครอบคลุมในทุกมิติ คณะกรรมาธิการวิสามัญจึงเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อรับทราบปัญหาและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยราชการและประชาชนในพื้นที่ในครั้งนี้

 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพดล อินนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา วุฒิสภา ยังกล่าวอีกว่า ข้อมูลที่ได้รับในครั้งนี้ได้มีการยืนยันว่ามีการละเมิดข้อ 5 ของ MOU 43 (ห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพ) หลายครั้ง ซึ่งฝ่ายไทยได้ประท้วงไปแล้ว นอกจากนี้ การลงพื้นที่ยังทำให้เห็นปัญหาที่แท้จริงของ หลักเขตที่ 73 ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้อย่างชัดเจน แม้จะมีข้อตกลงตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสก็ตาม ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ MOU 43/44 ย้อนหลังไปถึง 242 ปี โดยจะเน้นการใช้ หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายมิติ ทั้งมติคณะรัฐมนตรีในอดีต ข้อมูลการเดินสำรวจของกรมแผนที่ทหาร และข้อมูลที่มีชั้นความลับ เพื่อความสมบูรณ์ของรายงาน คณะกรรมาธิการฯ เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องในอดีตหลายท่านมาให้ข้อมูล

 

เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยมีดำริเสนอ ครม. ให้ยกเลิก MOU 44 รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพเรือ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งจะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งเท่านั้น เนื่องจากคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง จึงรับประกันความเป็นกลางในการศึกษา ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ จะไม่รอให้รายงานเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด แต่จะนำความคืบหน้าเสนอต่อวุฒิสภาและเผยแพร่ต่อประชาชนเป็นระยะ โดยกำหนดการสำคัญคือการรายงานความคืบหน้าต่อวุฒิสภาในช่วงก่อนปิดสมัยประชุม ประมาณวันที่ 27 หรือ 28 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมแบบเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและเข้าใจในรายละเอียดไปพร้อมกับสมาชิกรัฐสภา โดยหวังว่าข้อมูลที่เป็นกลางและรอบด้านนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของประชาชน หากมีการทำประชามติในอนาคต และเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญให้แก่คณะรัฐมนตรีในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะ ยกเลิก หรือ ไม่ยกเลิก MOU 43/44 ต่อไป

 

/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวสมาคมคนข่าวภูธร จ.ตราด