อำเภอคูเมือง//น้องเก๋ สาวโรงงานที่หายไป 12 ปีมารู้ตอนมูลนิธิกระจกเงาตรวจดีเอ็นเอ ตรงกับพ่อแม่ พ่องงที่อดีตแฟนหนุ่มของลูกสาวปริดชีพตัวเองหลังตำรวจนำตัวไปสอบสวนเพียงวันเดียว พ่อเผยตอนนี้ยังไม่รู้ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว เพราะคนใกล้ชิดชิงตายก่อนจะรู้เรื่อง อโหสิกรรมให้แต่อยากให้รู้”บาปกรรมมีจริง”

วันที่ 9 ต.ค.68 กรณีนายวิโรจน์ กอไธสง อายุ 62 ปี และนางเตียง กอไธสง อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านโพธิ์ชัย ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ไปแจ้งคนหายไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2556

หลังจากเมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ของปี 2556 ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ภาวิณี กอไธสง หรือ “เก๋”ลูกสาววัย 23 ปีในตอนนั้นได้ ระหว่างไปทำงานอยู่ที่นิคมอุสาหกรรมเขตแหลมฉบัง และเข้าไปแจ้งเรื่องคนหายกับมูลนิธิกระจกเงาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2556

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เก็บสารพันธุกรรมของนางเตียง กอไธสง มารดาโดยสายโลหิตของนางสาวภาวิณี ส่งตรวจเทียบกับศพนิรนาม ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

เดือน เม.ย. 57 มีชาวบ้านพบโครงกระดูกนิรนามบริเวณกลางทุ่งนาป่าปรือ ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ท้องที่ สน.จรเข้น้อย สันนิษฐานว่าศพเสียชีวิตและอยู่ตรงนี้มานานเพราะเหลือแต่กระดูก

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้แจ้งผลการตรวจเทียบสารพันธุกรรม เลขที่ตรวจ ช.00337/2568 ว่า สารพันธุกรรมของนางเตียง กอไธสง มีความสัมพันธ์แบบมารดาและบุตร กับโครงกระดูกไม่ทราบเพศ ก่อนจะนำกระดูกของลูกสาวไปทำบุญตามประเพณีที่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 68
จนกระทั่งต่อมามูลนิธิกระจกเงา ได้พาครอบครัวมาที่ยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อร้องขอการเยียวยากับภาครัฐ

จากนั้นนายวิโรจน์ พ่อน้องเก๋ ได้เข้าไปให้การกับตำรวจ สภ.แหลมฉบัง เกี่ยวกับความสำพันธ์ของลูกสาวก่อนจะหายตัวไป โดยนายวิโรจน์ ให้การกับตำรวจว่า หลังจากลูกสาวหายไปได้ไปติดต่อชายคนสนิทกับลูกสาว 2 คน

รายแรกเป็นหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันในโรงงาน จ.ชลบุรี ซึ่งปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นหรือทราบข่าวใดๆส่วนชายคนที่ 2 พักย่านบาดกระบังคบหากันหลายปี ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องเช่นเดียวกัน

และเหตุการณ์ล่าสุดนายประพันธ์ หรือ “ฟาริด” แฟนเก่าของเก๋ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ที่ตำรวจเรียกตัวไปสอบสวน ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยมีการสั่งลากับภรรยากับลูกไว้ก่อนจะฆ่าตัวเองตาย เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพ่อของน้องเก๋ ที่บ้านโพธิ์ชัย ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนางสาวภัทรมน กอไธสง อายุ 23 ปี น้องสาวเก๋ เล่าว่าจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องยิงตัวตาย ถ้าบริสุทธิ์จริงก็ให้การกับตำรวจแบบตรงไปตรงมาก็จบเพราะไม่มีใครมีหลักฐานอะไร

ส่วนตัวยังไม่ฟันธงว่าใครเป็นคนทำร้ายพี่สาวจนเสียชีวิต แต่การกระทำดังกล่าวของนายประพันธ์ มันก็น่าสงสัย ถือว่าเป็นเวรกรรมใครทำอะไรไว้ก็ต้องชดใช้กรรม แต่กรรมทำงานช้าไปหน่อย

ด้านนางเตียง กอไธสง อายุ 56 ปี แม่น้องเก๋ บอกว่าถึงตอนนี้ก็โล่งใจไปในระดับหนึ่งเพราะได้ลูกกลับมาทำบุญ ได้เห็นอะไรเกิดขึ้นเหมือนเป็นกรรมสนอง ยอมรับว่าที่ผ่านมากว่า 12 ปี ตนกับสามีอยู่ด้วยความยากลำบากคิดถึงลูกทุกวัน

หาเงินไปตามหาลูก ขายวัว ขายควาย กู้หนี้ยืมสินเพื่อออกตามหาถึงแม้จะหมดหวังในตอนนั้นก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องไปเพราะนั่นคือลูก เมื่อถามว่าจะอโหสิกรรมให้คนก่อเหตุหรือไม่ นางเตียง บอกว่า”ไม่มั่นใจ”เพราะที่ผ่านมาบอบช้ำมากพอแล้ว///////////

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง จ.บุรีรัมย์ รายงาน