สว.ดร.วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา เสนอแนวทาง Quick Big Win การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน

สว.ดร.วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา เสนอแนวทาง Quick Big Win การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน

 


รัฐบาลต้องผ่อนปรนเงื่อนไขเครดิตบูโร เพื่อแก้หนี้ของประชาชนที่มีรายได้น้อยและ SME ที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมแก้กฎหมายล้มละลาย ให้คนรายได้น้อยมีโอกาส ไม่เอาเครดิตบูโรมาเป็นนัยยะสำคัญในการกู้ การผ่อนชำระเงินกู้ต้องตัดเงินต้นก่อนดอกเบี้ย จากการแถลงนโยบายรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อวันที่ 29-30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

สว.ดร.วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร ได้เสนอแนะแนวทาง Quick Big Win ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน นอกเหนือจากนโยบายคนละครึ่ง ที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินไปแจกจ่าย เพื่อประชานิยมของรัฐบาล คือการผ่อนปรนเครดิตบูโร กับทั้ง ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME


เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงเข้าขั้นวิกฤต โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลชุดเดิมๆ ออกมา ไม่ได้แก้ปัญหาจริง เพราะสร้างเงื่อนไขจนกลายเป็นกับดักหนี้ ในขณะที่วันนี้นายกรัฐมนตรี ยังคงแถลงนโยบายใช้มาตการเดิม ถือว่ายังคงเป็นการสร้างกับดักหนี้ให้ประชาชน และไม่ได้แก้ปัญหาโดยเฉพาะประชาชนระดับล่างที่รายได้น้อย

รายได้ไม่สม่ำเสมอ และยังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ตามเงื่อนไขเครดิตบูโร รวมทั้ง ผู้ประกอบการรายย่อย SME หมดโอกาส หนทางลืมตาอ้าปาก เช่นนั้นแล้วรัฐบาลต้องหันกลับมาให้โอกาสคนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันมีเพียง 25 % เท่านั้นที่มีโอกาสขอสินเชื่อได้ รัฐบาลสามารถทำได้ทันที โดยการผ่อนปรนเงื่อนไขเครดิตบูโร อย่างน้อย 1-2 ปี เริ่มจากธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน

ขณะเดียวกันในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการอภิปรายเพื่อพิจารณารับร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2483 โดย สว.ดร.วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ ได้อภิปรายต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนให้มีการแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ล้มละลายนี้ เนื่องจาก กฎหมายต้องสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม ที่เปลี่ยนไป อีกทั้งกฎหมายต้องใช้แก้ปัญหาให้กับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนจนที่เป็นหนี้ ที่ไม่เคยได้รับสิทธิในการแก้ปัญหาหนี้อย่างจริงจัง การแก้กฎหมายครั้งนี้ต้องไม่แก้แบบครึ่งๆ กลางๆ อย่างที่ผ่าน ท้ายสุดได้ฝากไปยังกรรมาธิการวิสามัญชุดที่วุฒิสภาจะได้ตั้งขึ้นว่า ให้แก้กฎหมายการชำระหนี้เพื่อตัดวงจรหนี้โดยต้องตัดเงินต้นก่อน ค่อยไปตัดดอกเบี้ย ไม่เช่นนั้นจะเป็นหนี้ไม่มีที่สิ้นสุด

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน