ปัตตานี-มีเคลื่อนไหวต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน เกือบทุกหมู่บ้านติดป้าย ”ต้านพืชกระท่อม“ โดยมีเกือยทุกชุมชนแล้ววที่ปัตตานี ผู้นำ!!!ย้ำไม่ต้องการกระท่อมในพื้นที่

ปัตตานี-มีเคลื่อนไหวต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน เกือบทุกหมู่บ้านติดป้าย ”ต้านพืชกระท่อม“ โดยมีเกือยทุกชุมชนแล้ววที่ปัตตานี ผู้นำ!!!ย้ำไม่ต้องการกระท่อมในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ปัญหาการบริโภคน้ำกระท่อมยังคงแพร่ระบาดในจังหวัดชายแดนใต้ ส่งผลกระทบทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะการดื่ม 4 คูณ100 ที่ผสมน้ำกระท่อมกับยาแก้ไอและน้ำโค๊ก ขณะที่การปลดล็อกพืชกระท่อมกลับทำให้มีผู้บริโภคและผู้ค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลแก่ภาครัฐ และประชาชนเป็นอย่างมาก​ จนนำไปสู่ ปฏิบัติการ 120 วันต้านพืชกระท่อม ตามนโยบาย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการ รมว.ยุติธรรม โดยเน้นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ส่งผลให้ร้านขายกระท่อมริมถนนหลายแห่งในปัตตานีถูกสั่งปิด แสดงถึงกระแสต่อต้านที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่และโลกออนไลน์

ล่าสุด ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และประชาชนในปัตตานีทั้ง 12 อำเภอ ร่วมรณรงค์ติดป้ายประกาศว่า พืชกระท่อมเป็นสิ่งฮารอม เพื่อสร้างความเข้าใจตามหลักศาสนาอิสลาม พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการป้องกันยาเสพติด ควบคู่กับการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาเยาวชนให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติด

เช่นเดียวกับพื้นที่อำเภอแม่ลาน ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนายังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ 120 วัน ต้านพืชกระท่อม อย่างต่อเนื่อง มีการพูดคุยสร้างความเข้าใจและตักเตือนกลุ่มเยาวชนที่เสพน้ำกระท่อม พร้อมทั้งพาเข้าสู่กระบวนการบำบัด ขณะเดียวกันยังได้ติดตั้งป้ายไวนิลรณรงค์ต่อต้านพืชกระท่อมตามจุดสำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอแม่ลาน เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันในการป้องกันน้ำกระท่อมและยาเสพติด​อื่นๆ

นายจิมณีอาบ๊ะ ปะดอมะ กำนันหมู่ 6 อำเภอแม่ลาน เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมร่วมกับชาวบ้านและอิหม่ามอย่างต่อเนื่อง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาการดื่มน้ำกระท่อม เนื่องจากในหลักศาสนาอิสลามถือว่าเป็นสิ่งที่ฮารอม หรือสิ่งต้องห้าม โดยทุกวันศุกร์ก่อนที่โต๊ะอิหม่ามจะขึ้นบรรยายธรรม หรืออ่านคุตบะห์ ตนจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีในการพูดคุยกับชาวบ้าน และในระหว่างการบรรยายธรรมก็มีการกล่าวถึงโทษภัยของน้ำกระท่อมด้วย

นายจิมณีอาบ๊ะ เผยต่อว่า ในพื้นที่ตำบลป่าไร่ อำเภอแม่ลาน ไม่เคยมีการขายพืชกระท่อมริมทาง เนื่องจากชาวบ้านตระหนักว่าศาสนาอิสลามห้ามอย่างเคร่งครัด ผู้ที่คิดจะขายก็เกรงกลัวการทำผิดศาสนามากกว่าการกลัวเจ้าหน้าที่ ตนไม่ได้ใช้วิธีปราบปราม แต่เน้นการพูดคุยและตักเตือนมากกว่า เพื่อให้เขาเข้าใจว่าการดื่มน้ำกระท่อมไม่ใช่เรื่องดี ซึ่งทุกคนก็เห็นพ้องต้องกัน โดยก่อนหน้านี้พื้นที่ตำบลป่าไร่เคยมีคนติดน้ำกระท่อมจำนวนมาก แต่หลังจากที่ได้ตั้งฮูกุมปากัส ทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น

นายจิมณีอาบ๊ะ​ เผยตอนท้ายว่า​ ส่วนการส่งเสริมอาชีพในชุมชน ที่ผ่านมาได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก ศอ.บต. เพื่อนำมาช่วยเหลือชาวบ้าน บางส่วนหันไปเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ และที่สำคัญคือมีการดึงเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมอีกด้วย

ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี
085-0772217