เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.5 จับกุมคนจีนและคนไทยรวม 3 คนรับจ้างถอนเงินสดจากบัญชีม้า พื้นที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.5 จับกุมคนจีนและคนไทยรวม 3 คนรับจ้างถอนเงินสดจากบัญชีม้า พื้นที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น.
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าวผลการปฏิบัติคดีอาชญากรรมรายสำคัญในพื้นที่ ภ.5 กรณีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ศปอส.ภ.5 (PCT ภ.5) – สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ได้สืบสวนหาข่าวว่ามีชาวจีน ได้ทำธุรกรรมถอนเงินสดต้องสงสัย จนสืบทราบว่ากลุ่มคนจีนรับจ้างถอนเงินดังกล่าว มีความเคลื่อนไหว ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมข้อมูลและลงพื้นที่ในการตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นฯและ พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามฯต่อมาได้สืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 1 คน รวมออกหมายจับจำนวน 4 ราย จับกุมได้จำนวน 3 คน
โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, รอง ผบก.สส.ภ.5, รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ ห้องประชุม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุม ตำรวจภูธรภาค 5 โดย เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5), เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย นายฉิน หลง หรือ MR.QIN LONG อายุ 29 ปี สัญชาติจีน หนังสือเดินทาง EQ1225867 (ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1588 /2568 ลงวันที่ 5 สค.2568)
นายจาง ลู่ผิง หรือ MR.ZHANG LUPING อายุ 30 ปี สัญชาติจีน หนังสือเดินทางWQ2158533(ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1583/2568 ลงวันที่ 5 ส.ค.2568)น.ส.สุดารัตน์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 40 ปี ที่อยู่ ม.2 ต.บ้านสวน อ.เมืองสุโขทัย จว.สุโขทัย (ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1586/2568 ลงวันที่ 5 ส.ค.2568)
ฐานความผิด ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 กล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดย ทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันเป็น ธุระจัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการ ซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญา อื่น” ผู้ต้องหาที่ 3 กล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง”พร้อมตรวจยึดของกลาง จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย ธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท และ ฉบับละ 500 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 1,140,000 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 3 เล่ม บัตรกดเงินสด จำนวน 2 ใบ