ปราจีนบุรี-คืบหน้าขบวนค้าน้ำมันเถื่อนฆ่าดาบตำรวจพร้อมภรรยา

จากกรณี ด.ต.สกล บรรลุ อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ และนางจันสอน พลเยี่ยม อายุ 25 ปี ภรรยา (ชาวลาว) ท้อง 6 เดือน ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดในรถยนต์ปิคอัพ อีซูซุ ดีแมก 4 ประตู ทะเบียน ศฐ 6280 กรุงเทพฯ ที่บริเวณข้างบ่อน้ำ หมู่ที่ 2 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ห่างจากถนนสาย 3079 ประมาณ 4 กม. นั้น

 


วันนี้ (13 พ.ค. 67) ทางชุดสืบสวนภาค 2 และชุดสืบสวน สภ. ระเบาะไผ่ ได้ควบคุมตัว นายธรรมรัตน์ ภูมิมาและนายพิชิตพงศ์ ภู่มาลา ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์มาทำการสอบสวนขยายผล จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงดาบตำรวจสกลและภรรยาเสียชีวิตนั้น คือนายชัยวิชิต ภู่มาลา (หลบหนี) จึงได้ขยายผลไปทำการตรวจยึดได้ อาวุธปืนยาวเอเค 47 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน อาวุธปืนพกสั้นขนาด . 357 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน, อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ยี่ห้อซิกซาวเออร์พร้อมเครื่องกระสุน, ลูกระเบิดขว้างสังหารจำนวน 1 ลูก, อาวุธปืนยาวอัดลม จำนวน 2 กระบอก ตรวจยึดได้บริเวณป่าหลังบ้านของนายชัยวิชิตฯ

โดยบุคคลทั้งสองให้การว่า ในขณะที่ตนและนายชัยวิชิตกำลังซื้อน้ำมันอยู่บริเวณป่าริมถนน ได้มีดาบตำรวจสกลพร้อมภรรยา ได้เข้ามาที่เกิดเหตุ นายชัยวิชิตและดาบตำรวจสกล ได้มีปากเสียงกับนายชัยวิชิตจึงใช้อาวุธปืนยิงดาบตำรวจสกลและภรรยาจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งพร้อมกับรถของดาบตำรวจสกลในป่าห่างจากจุดยิงประมาณ 3 กิโลเมตร

ต่อมา นางแก่นจันทร์ พลเยี่ยม 53 ปี (แม่ชาวลาว) พร้อมสามี นายคำภู พลเยี่ยม อายุ 60 (พ่อ) พร้อมญาติได้เดินทางมาถึงที่ สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อรอพบกับพนักงานสอบสวน โดยให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อนโทรบอก ว่า ด.ต.โก้ ถูกยิง แต่ไม่ได้บอกว่าลูกสาวแม่ถูกยิง แต่บอกว่าไม่เห็นลูกสาว สุดท้ายก็โทรมาบอกแต่แม่ก็รู้ว่าลูกเสียแล้วเพราะลูกจะไปไหนมาไหนกับแฟนเขาตลอด ตนออกเดินทางจากเวียงจันทน์ประมาณ 4-5 โมง มาถึงหนองคายประมาณ 2 ทุ่ม และก็นั่งรถจากหนองคายมาโคราชและต่อรถมากบินทร์บุรี เมื่อรู้ว่าลูกเสียชีวิตตนก็ทำใจ ก็รู้ว่าลูกเขยเป็นตำรวจแต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง อยากฝากบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวและอยากถามคนร้ายว่า ทำไมถึงทำอย่างนั้น เพราะลูกสาวแม่ก็ท้องมาได้ 6 เดือนกว่าแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าทำได้อย่างไร แม่รู้ว่าลูกกระทำแบบนี้ก็เสียใจมาก

พ.ต.อ. สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก มีตำรวจที่เคยอยู่ที่ สภ.ระเบาะไผ่และย้ายกลับไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ ในวันเกิดเหตุเค้าแยกจากเพื่อนที่กรอกสมบูรณ์ เพื่อไปทานอาหาร ระหว่างขับรถมาระหว่างทาง คงเจอลักษณะเหมือนรถมีการหยุดถ่ายน้ำมันกัน ตรงนี้ก็ขอชื่นชมเขาด้วย เขาก็ลงไปตรวจสอบ ระหว่างที่ลงไปตรวจสอบเขาก็ให้ภรรยาโทรไลน์หาตำรวจที่เขาสนิทแจ้งว่ามีเหตุลักษณะนี้อยู่ พร้อมส่งโลเคชั่นให้ หลังจากได้รับแจ้งจากภรรยาไม่เกิน 10 นาที เพื่อนก็เดินทางไปตามโลเคชั่น แต่โลเคชั่นที่ส่งไปในพื้นที่ค่อนข้างจะไม่ตรง ก็เลยหาจุดไม่เจอ หลังจากนั้นก็รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก็น่าจะมีเหตุ ปกติตัวเขาจะไม่ปิดโทรศัพท์ จะติดต่อได้ตลอด

เบื้องต้นผู้กระทำความผิดไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ด.ต.ที่เสียชีวิตก็มีช่องข่าวลงข่าวที่ลงว่าด.ต.ผู้เสียชีวิตไปเปิดคอกน้ำมันนั้น ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาย้ายไปแล้ว 2-3 ปี อีกส่วนหนึ่งก็ต้องชื่นชมเขา ถึงแม้ไม่ใช่ตำรวจในพื้นที่ เขาผ่านไปเจอ เขาก็ยังมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจเข้าไปตรวจสอบก็แจ้งให้เพื่อนตำรวจที่เขาสนิทให้ได้รับทราบ ก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้ ที่ว่ามีการประกอบธุรกิจน้ำมันเถื่อนนั้น ผมขอยืนยันว่าไม่มี

 

/////////ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี