เรือดำน้ำจีนเข้าร่วมฝึกการฝึกผสม Blue Strike 2023 กลางอ่าวไทย

เรือดำน้ำจีนเข้าร่วมฝึกการฝึกผสม Blue Strike 2023 กลางอ่าวไทย

 

ตามที่ ได้ทำการฝึกสร้างความคุ้นเคยเรือดำน้ำ หรือที่เรียกว่า Submarine Familiarization ในอ่าวไทย ในการฝึกผสม Blue Strike 2023 ระหว่างกองทัพเรือไทย กับ กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทางฝ่ายจีนได้นำเรือดำน้ำ CNS Chang Cheng เข้าร่วมฝึก โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อฝึกให้เรือผิวน้ำและอากาศยานของทางกองทัพเรือไทย ได้มีความคุ้นเคยกับการตรวจการณ์เรือดำน้ำ ด้วยสายตาขณะปฏิบัติการในบริเวณผิวน้ำ และต่อมาได้ทำการฝึกติดตามเรือดำน้ำ หรือที่เรียกว่า TRACKEX โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้

เรือผิวน้ำฝึกการตรวจจับและติดตามเรือดำน้ำด้วยโซนา รวมถึงการแสดงภาพและการรายงานเป้าเรือดำน้ำ นับว่าเป็นโอกาสอันดี ที่ทำให้กำลังพลของกองทัพเรือ เกิดความมั่นใจและเป็นประสบการณ์ที่ห่างหายจากเรือดำน้ำที่เคยประจำการมากว่า 86 ปี
หมู่เรือฝึกของ กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เข้าร่วมฝึก จำนวน 4 ลำ ได้เดินทางถึง ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ประกอบด้วย เรือยกพลขึ้นบก CNS Simingshan ซื่อหมิงซาน เรือฟริเกต CNS Anyang อานหยาง เรือส่งกำลังบำรุง CNS Chaohu ฉาวหู เรือดำนำ้ CNS Chang Cheng ฉางเฉิง

ส่วนทางกองทัพเรือไทย ได้จัด เรือหลวงช้าง เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช และอากาศยานเข้าร่วม และเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชากองทัพเรือไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฝึกผสม BLUE STRIKE 2023 ในระหว่าง 4 – 8
กันยายน 2566 เป็นการฝึกขั้นที่ 2 ซึ่งเป็นการฝึกแลกเปลี่ยนทางยุทธวิธีทั้งการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในพื้นที่การฝึก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้แก่ กองการฝึก กองเรือยุทธการ กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ สนามยิงปืนหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 15 ณ บริเวณหาดยาว และค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และพื้นที่ทะเลฝั่งอ่าวไทย ระยะทาง 45 – 65 ไมล์ทะเล จากฝั่ง

การตรวจเยี่ยมในทุกสถานีและหัวข้อการฝึก เต็มไปด้วยความใส่ใจและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากคณะผู้บังคับบัญชาทั้ง 2 ฝ่าย โดยเริ่มต้นตรวจเยี่ยมการฝึกสถานีการดำรงชีพในป่า (Jungle Survival) ซึ่งเป็นการแนะนำ จากครูฝึกของทางฝ่ายไทย ที่ทำการสอนและสาธิตอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง โดยมุ่งเน้นให้กำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกทุกนาย ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังพลของฝ่ายจีน ได้มีโอกาสสัมผัส สัตว์ต่างๆ ผลไม้ พืชต่างๆ ตามธรรมชาติ ที่สามารถกินได้และกินไม่ได้ จากสภาพแวดล้อมของป่า ในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้สามารถอยู่รอดและดำรงชีพในป่าได้อย่างปลอดภัย ถัดไปเป็นการตรวจเยี่ยมสถานียุทธวิธีทหารราบยานเกราะ VN 16 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ร่วมฝึกและแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ การใช้ยุทโธปกรณ์ประเภทนี้ต่อกัน ในสภาพแวดล้อมและโจทย์การฝึก ซึ่งจำลองจากสถานการณ์จริง ในการปฏิบัติการร่วม

หลังจากนั้น เสนาธิการทหารเรือ เดินทางไปสนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 15 บริเวณหาดยาว เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR บนฝั่ง ประกอบด้วย การปฏิบัติงานของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (ICC) ในการทำหน้าที่บัญชาการเหตุการณ์ ติดตาม และประเมินสถานการณ์ เพื่อสั่งการไปยังชุดปฏิบัติงานต่างๆ ที่ทำหน้าที่ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ปนเปื้อนสารเคมี และชำระล้างสารพิษ (DECON)
และส่งต่อผู้ประสบภัยให้ชุกับปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน (MERT) พร้อมด้วยการฝึกชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในอาคารสูง และส่งกลับผู้ประสบภัยมายังชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน (MERT) ณ พื้นที่ชายหาด เพื่อทำการคัดแยกผู้ประสบภัยที่บาดเจ็บ และทำการรักษาผู้ประสบภัยที่บาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณโรงพยาบาลสนามบนชายหาด และส่งผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ด้วยการส่งกลับสายแพทย์ (Medical Evacuation: MEDEVAC) ทางเรือ

ด้วยเรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) เป็นการเสร็จสิ้นโจทย์การฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR ภาคบก
หลังจากจากนั้น เสนาธิการทหารเรือพร้อมคณะได้ออกเดินทางจากหาดยาว ด้วย เฮลิคอปเตอร์ Z-8C ซึ่งเป็นอากาศยานประจำเรือ CNS Simingshan ไปยังเรือ CNS Simingshan ณ พื้นที่การฝึกบริเวณอ่าวไทย เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกภาคทะเลบนเรือดังกล่าว ประกอบด้วยการฝึก HADR ในทะเล การฝึกการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (SAR) โดยใช้เฮลิคอเตอร์ แบบ S-76B (SEA HWAK) ของฝ่ายไทยในการค้นหาและช่วยเหลือ การฝึกการช่วยเหลือทางการแพทย์บนเรือ และการส่งกลับสายแพทย์ (Medevac) ซึ่งทางฝ่ายไทยได้ส่งกำลังพลเข้าร่วมฝึกกับทางฝ่ายจีน บนเรือ CNS Simingshan ด้วย

และในวันที่ 8 ก.ย.66 ที่ผ่านมา การฝึกผสม BLUE STRIKE 2023 ภาคบกยังดำเนินการฝึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนทักษะในการปฏิบัตการร่วมกันให้กับผู้เข้าร่วมการฝึกทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบด้วย การฝึก การปฐมพยาบาลสนาม (Field Medical) ดำรงชีพในป่า (Jungle Survival) การฝึกดำน้ำทางยุทธวิธี (Tactical Diving) การฝึกยุทธวิธีทหารราบยานเกราะ (VN – 16) (Mechanized Tactical)
ในส่วนการฝึกภาคทะเล มีความเข้มข้นและครบถ้วนตามหัวข้อการฝึก ซึ่งเน้นให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมฝึก ในมิติต่างๆ ของการปฏิบัติการในทะเลอย่างครบถ้วน ได้แก่ เรือผิวน้ำ อากาศนาวี และเรือดำน้ำ การฝึกภาคทะเลในวันนี้ ประกอบด้วย การฝึกแปรขบวนทางยุทธวิธี (MANEX)/ถ่ายภาพ (PHOTOEX) การฝึกการรับ – ส่งสิ่งของ
ในทะเล (Replenishment at sea : RAS) การฝึกการสร้างความคุ้นเคยเรือดำน้ำ (Submarine Familiarization) และการฝึกติดตามเรือดำน้ำ (TRACK EX) โดยเรือที่เข้าร่วมการฝึกภาคทะเล จะทำการฝึกจนแล้วเสร็จ และเข้าเทียบท่าเรือจุกเสม็ดในห้วง 23.00 น. ของวันที่ 8 กันยายน 2566

 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645
ส่วนสื่อสารและประชาสััมพัันธ์์ กองอำนวยการฝึกผสม Blue Strike 2023
8 กันยายน 2566