กาฬสินธุ์-ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ สั่งเร่งเดินเครื่องสูบน้ำระยะไกล ช่วยชาวบ้าน 345 ครัวเรือน ในอำเภอฆ้องชัย หลังประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำอุปโภค-บริโภค

กาฬสินธุ์-ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ สั่งเร่งเดินเครื่องสูบน้ำระยะไกล ช่วยชาวบ้าน 345 ครัวเรือน ในอำเภอฆ้องชัย หลังประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำอุปโภค-บริโภค

 

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 11.30 น. ณ ตำบลโคกสะอาด อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รับฟังปัญหาและวางแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลโคกสะอาด โดยมีนางสาวสุภลักษณ์ บุญเกิด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายปัญญา ประโพชะนัง นายอำเภอฆ้องชัย ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมติดตามพร้อมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่

 

ตามที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับรายงานว่า ปริมาณน้ำในหนองสาธารณะ (หนองขี) ตั้งอยู่ที่บ้านสะอาด หมู่ที่ 2 ตำบลโคกสะอาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน มีปริมาณน้ำลดน้อยลงจนไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนที่ใช้น้ำในจุดดังกล่าวจำนวน 345 ครัวเรือน ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ (ปภ.) บูรณาการร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น และองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด เร่งสำรวจ ประเมินสถานการณ์ และวางแผนการติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรอย่างเร่งด่วน

 

สำหรับวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ ปภ.เขต 6 ขอนแก่น ดำเนินการติดตั้งสูบส่งน้ำระยะไกลเพื่อทำการเติมมายังแหล่งน้ำดังกล่าว โดยทำการติดตั้งเครื่องสูบ ณ บริเวณคลองชลประทาน4R จุดบ้านสะอาด หมู่ที่ 2 สูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบสำรองคือ “กุดไส้จ่อ” บ้านโนนชัย หมู่ที่ 1 เพื่อส่งต่อไปยังหนองขี บ้านสะอาด หมู่ที่ 2 โดยจะมีการวางแนวท่อส่งน้ำรวม 3 ช่วง คิดเป็นระยะทาง 1.6 กิโลเมตร โดยมีแผนการสูบน้ำ เริ่มจากวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 13 มกราคม 2569 รวมจำนวน 20 วัน ได้ปริมาณน้ำ ประมาณ 62,800 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุหนองขี (ความจุ 250,000 ลบ.ม.) ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำใช้ถึงเดือนพฤษภาคม 2569 เพื่อให้ปริมาณน้ำมีเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาอุปโภคบริโภค

   

ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้สั่งการให้ นายอำเภอทุกอำเภอ และ เร่งสำรวจ พื้นที่เสี่ยงภัย หรือมีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ และจำแนกพื้นที่เสี่ยงภัยให้ชัดเจน ทั้งพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค พื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบปริมาณน้ำดิบต้นทุนในพื้นที่ หากพบว่าจุดใดเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ และไม่สามารถผลิตหรือแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนได้ ให้แจ้งประสานเพื่อจะได้บริหารจัดการนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเข้ามาสนับสนุนในพื้นที่ รวมทั้งประสานให้ทาง ปภ.กาฬสินธุ์บูรณาการคสามพร้อมเครื่องจักรกลของ อปท. ภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง และช่วยเหลือ พี่น้องประชาชน และ เกษตรกรได้อย่างทันท่วงที