พิจิตร-ชาวนาพิจิตรร้องทุกข์ชีวิตสุดลำเค็ญปลูกข้าวหอมมะลิ105รัฐประกาศ13,000บ./ตันถึงเวลาเก็บเกี่ยวหาผู้รับซื้อไม่ได้
พิจิตร-ชาวนาพิจิตรร้องทุกข์ชีวิตสุดลำเค็ญปลูกข้าวหอมมะลิ105รัฐประกาศ13,000บ./ตันถึงเวลาเก็บเกี่ยวหาผู้รับซื้อไม่ได้
https://youtu.be/1TVZ-4Y95uA
   วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นายสุทธิฉัตร บุญมี “ลุงสนั่น” อายุ 61 ปี อาชีพทำนาอยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 9 ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี ซึ่งปลูกข้าวหอมมะลิจำนวน 40 ไร่ รวมถึงเลี้ยงควายอีก42 ตัว เป็นอาชีพเสริม พร้อมด้วยเพื่อนบ้านที่เป็นชาวนาด้วยกันร่วมกันเล่าเรื่องชีวิตที่สุดแสนจะลำเค็ญของชาวนาเมืองชาละวันว่าทุกวันนี้ราคาผลผลิตตกต่ำ ชาวนากลุ่มนี้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105  พื้นที่รวมๆแล้วเกือบ 1 พันไร่ ขณะนี้ข้าวพร้อมจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว ซึ่งคาดว่าประมาณวันที่ 15 พ.ย. 68 นี้ ก็จะเก็บเกี่ยวขายได้ไปตระเวนถามโรงสี-ท่าข้าว-สหกรณ์ ก็ปรากฏว่ายังไม่มีที่ใดเปิดราคาและเปิดรับซื้อจึงทำให้มีความทุกข์อย่างมากว่าเกี่ยวข้าวแล้วจะเอาข้าวหอมมะลิไปขายที่ไหน และจะได้ราคาตามข่าวบนโลกโซเชียล อย่างที่รัฐบาลประกาศกำหนดราคาข้าวหอมมะลิว่าจะได้ตันละ 13,000บาท จริงหรือไม่ ? เพราะในชีวิตจริงราคาข้าวหอมมะลิ 105 ที่ว่าจะรับซื้อตันละ 13,000 บาท ไม่มีอยู่จริง เป็นเหมือนแค่วาทะกรรมที่ประกาศออกมาเท่านั้น
     
นายสุทธิฉัตร “ลุงสนั่น” กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าราคาข้าวปีนี้ต่ำสุดๆเกี่ยวข้าวขายก็ขาดทุนใจจริงถ้าไม่เป็นหนี้ ธกส. ก็ว่าจะไม่เกี่ยวข้าวขาย คิดเอาไว้ว่าเอาข้าวในท้องนาให้ควายกินน่าจะดีกว่า และหวังจะขายควาย แต่ปรากฏว่าราคาขายควายตอนนี้ก็ราคาถูกติดดินรัฐบาลบอกว่าราคาโค-กระบือ ประกาศว่าอยู่ที่ กก.ละ 80 บาท พอจะจับควายขายราคาดังกล่าวก็ไม่มีอยู่จริง ดังนั้นจึงขอส่งเสียงร้องทุกข์ขอให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์รวมถึงพาณิชย์จังหวัดพิจิตร ช่วยหาความจริงและความชัดเจนของตลาดซื้อ-ขาย ข้าวเปลือก ว่าชาวนาควรจะไปในทิศทางใด เพราะทุกวันนี้ชาวนาเหมือนคนตาบอดไม่มีทิศทางที่จะไปทางใดแล้ว
ในส่วนของ นายสมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์  ผู้จัดการใหญ่ สหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี จ.พิจิตร ก็เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ราคาข้าวปีนี้ต่ำที่สุดเท่าที่ตนเองเคยประสบพบมา
     
โดยที่ สหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี ขณะนี้เปิดรับซื้อข้าวขาวทั่วไปตันละ 5,000 บาท  แต่ที่มีข้าวเข้ามาขายคือข้าว กข.43 ที่ บริษัท ซีพี มีพันธะสัญญาคำสั่งซื้อล่วงหน้าให้ราคาพิเศษบวกเพิ่มอีกตันละ 3,000 บาท  ซึ่งรับซื้อจากสมาชิกที่ลงทะเบียนปลูกข้าว กข.43 ในโครงการประมาณ 1,500 ไร่ ส่วนข้าวหอมมะลิ 105 ช่วงนี้ไม่ได้เปิดรับซื้อเนื่องจากพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ในแถบนี้มีไม่มากพอที่จะรับซื้อในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ผู้จัดการใหญ่ สหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี จ.พิจิตร ยังกล่าวแนะนำว่าช่วงฤดูกาลนาปรังที่จะถึงนี้ชาวนาควรงดการปลูกข้าวเพื่อลดปริมาณข้าวและเป็นการสร้างกลไกการตลาดเพื่อให้ราคาข้าวในฤดูกาลต่อไปที่จะขยับตัวสูงขึ้น อีกทั้งก่อนที่จะทำนาควรสอบถามผู้ซื้อว่าต้องการซื้อข้าวชนิดใด โดยใช้การตลาดนำการผลิต อย่าปลูกข้าวตามกระแสแห่ปลูกตามกัน เพราะถึงเวลาขายก็จะไม่ได้ราคา เพราะว่าไม่ได้ถูกใจคนซื้อนั่นเอง
สิทธิพจน์/พิจิตร/