บุรีรัมย์-รวบอดีตทหารพรานรับจำนำรถแล้วเบี้ยวขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน

อำเภอเมือง//ชุดสืบสวนนำหมายจับควบคุมตัวอดีตทหารพราน เปิดรับจำนำรถแล้วส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน หลังบริษัทไฟแนนซ์ร้องว่าลูกค้าออกรถเงินผ่อนแล้วเอาไปจำนำเป็นจำนวนมาก พบรถจักรยานยนต์รอส่งกว่า 50 คัน คาดรู้เส้นทางชายแดนจุดส่งข้ามสิ่งผิดกฎหมายเป็นอย่างดีเพราะอาชีพทหารพราน

วันที่ 3 ต.ค.68 พล.ต.ต.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.ยุทธพงศ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน ภวจ.บุรีรัมย์

นำรถจักรยานยนต์จำนวน 53 คัน รถยนต์ 2 คัน สมุดบันทึกการรับจำนำ 2 เล่ม และเอกสารรับจำนำรถจำนวน 121 ชุด มาแถลงได้แถลงผลการจับกุมแก๊งรับจำนำรถในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากบริษัทไฟแนนซ์ที่ให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ว่าลูกค้าเป็นจำนวนมาก ที่มาซื้อรถมีพฤติการณ์ที่ตั้งใจมาออกรถแล้วเอาไปจำนำกับคนรับจำนำ

ซึ่งจากการสืบสวนก่อนหน้านี้ พบว่า นายวิทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี (เบลอหน้า) อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.14 ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ อดีตเคยเป็นอาสาสมัครทหารพราน ค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน ชาว ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ตั้งตัวเป็นผู้รับจำนำรถในพื้นที่

ในเวลาต่อมาได้มีนางสาวพิมพ์พร เกียรตินวพล อายุ40ปี เจ้าหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ที่มาดูรถจักรยานยนต์ของกลางที่ตำรวจตรวจยึดมาได้พร้อมเผยว่า ตนได้รับมอบจากบริษัทมาดูรถที่ยึดมา เบื้องต้นคาดว่าจะมีรถของบริษัทอยู่ในจำนวนนี้หลายคัน เพราะส่วนใหญ่รถมีสภาพใหม่

 

พล.ต.ต.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่าจากการสืบทราบ นายวิทยา รับจำนำมานานกว่า 10 ปี เมื่อได้รถจำนวนหนึ่งก็จะขนใส่รถตู้ทึบและเอาไปส่งขายส่งให้กับพ่อค้าชาวกัมพูชา แต่ช่วงนี้ด่านชายแดนปิด ทำให้รถส่งออกไม่ได้ทำให้รถเหลืออยู่ในบ้านเป็นจำนวนมากดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่นายวิทยา มาประกอบอาชีพด้านนี้ คาดว่าน่าจะรู้เส้นทางขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นทหารพราน โดยจะสืบสวนหาข้อมูลในเชิงลึกอีกครั้งถึงกระบวนการของนายวิทยา

 

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหานายวิทยา ว่ากระทำความผิดฐาน“รับจำนำรถโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.โรงรับจำนำมาตรา5และ46,ประกอบกิจการจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินในลักษณะประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต,ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้หรือรับของโจร”///////////////

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง บุรีรัมย์ รายงาน