ตราด-ฝ่ายค้าน” เยือนอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด รับฟังปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านผู้ประกอบการขอมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน

ตราด-ฝ่ายค้าน” เยือนอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด รับฟังปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านผู้ประกอบการขอมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน

 

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา วันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะ ได้ลงพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนายศักดินัย นุ่มหนู ผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด นายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ นายอนุพันธ์ เลิศสิทธิกุล นายกเทศมนตรีตําบลคลองใหญ่ พร้อมด้วยนางวิยะดา ซวง ที่ปรึกษาอุสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน เข้าร่วมเพื่อนำเสนอข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด

แนวทางประสานงานระดับท้องถิ่น
นายพิพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าชายแดน เสนอให้ใช้กลไกการประสานงานระดับท้องถิ่นเป็นลำดับแรก โดยเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างนายอำเภอในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ เพื่อค่อยๆ สร้างความคุ้นเคยและแก้ไขปัญหาในระดับล่างก่อน ก่อนจะขยับสู่การเจรจาระดับจังหวัดและระดับประเทศต่อไป

ข้อเสนอจากภาคประชาชนและผู้ประกอบการ:
นายสุทธิลักษณ์ คุ้มครองรักษ์ ประธานอาวุโสของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด ได้เสนอมาตรการเร่งด่วน 4 ประการ ดังนี้:
* มาตรการด้านสินเชื่อ: ขอให้สถาบันการเงินพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และให้ผ่อนชำระได้นาน 12 เดือนแรก
* เงินชดเชยความเสียหาย: ขอเงินเยียวยาผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ที่เสียหายจากการอพยพในอัตราไร่ละ 2,000-3,000 บาท
* มาตรการภาษี: ขอให้กรมสรรพากรยกเว้นค่าปรับสำหรับผู้ที่ยื่นประมาณการกำไรเพื่อเสียภาษีนิติบุคคลผิดพลาด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่สามารถประเมินรายได้ล่วงหน้าได้

* เงินช่วยเหลือครัวเรือน: ขอเงินเยียวยาครัวเรือนละ 10,000 บาท สำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพ และขอให้เพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกคนละ 100 บาท เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน รวมถึงขอมาตรการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวที่ซบเซาอย่างหนัก

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการจัดหาเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อเสริมสภาพคล่องวงเงิน 1-10 ล้านบาท โดยปลอดดอกเบี้ยนาน 6-12 เดือน

ภาคธุรกิจชายแดน ผลกระทบที่ประเมินค่าไม่ได้
นายทศพล เครือลอย ผู้ประกอบการส่งออกน้ำปลา (ผู้ผลิตและผู้ค้าชายแดน) ระบุว่า แม้จะมีการปิดด่านมานานกว่า 1 เดือน แต่ยังไม่มีมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนจากภาครัฐ โดยชี้ให้เห็นถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาลจากการค้าชายแดนที่หยุดชะงัก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 80-100 ล้านบาทต่อวัน เฉพาะในส่วนของสินค้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับจังหวัดตราด ซึ่งไม่รวมสินค้าจากส่วนกลาง

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังประสบปัญหา สินค้าค้างสต๊อก ที่ไม่สามารถส่งออกได้ และมี แรงงานที่ได้รับผลกระทบ อย่างน้อย 600 คน ซึ่งเป็นแรงงานในระบบห่วงโซ่อุปทานการขนส่งและการค้าชายแดน โดยการหางานใหม่ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ยากลำบาก

 

/ภาพ/ข่าว/วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด