เชียงใหม่- เปิดกิจกรรม “Lanna Wellness Trail 2025”สนามที่ 2 ดอยนางเมาะ-ดอยงุ้ม เชียงใหม่-ลำพูน

กิจกรรมการแข่งขัน Lanna Wellness Trail 2025 สนามที่ 2 ดอยนางเมาะ-ดอยงุ้ม เชียงใหม่-ลำพูน ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนา Soft Power เพื่อเป็นต้นทุนพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวมูลค่าสูง กิจกรรมหลักที่ 3 : Fighting & Sportตามแผนปฏิบัติราชการกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาน 2568

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 นางศุกลรัตน์ จันทร์มณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน ได้รับมอบหมายจากท่านวิวัฒน์   อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ให้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Lanna Wellness Trail 2025  สนามที่ 2 ดอยนางเมาะ-ดอยงุ้ม เชียงใหม่ – ลำพูน พร้อมด้วย นางเกศกนก เดชมา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูนนายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  นายอำเภอสันกำแพง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Tourism) และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ณ โรงเรียนออนใต้วิทยา ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

 

นางเกศกนก  เดชมา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) โดย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน จัดกิจกรรม Lanna Wellness Trail 2025 สนามที่ 2 ดอยนางเมาะ-ดอยงุ้ม เชียงใหม่-ลำพูน
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Tourism) และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism)

   

การแข่งขัน Lanna Wellness Trail 2025 สนามที่ 2 ดอยนางเมาะ-ดอยงุ้ม เชียงใหม่ – ลำพูน แบ่งการแข่งขัน ออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะ 13 กิโลเมตร และ ระยะ 38 กิโลเมตร เป็นการวิ่งผจญภัยในพื้นที่ธรรมชาติ วิ่งขึ้นภูเขา วิ่งในพื้นที่ป่า วิ่งไปเจอทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาในแต่ละพื้นที่ นักวิ่งจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ ในระหว่างทางในการวิ่งแต่ละเส้นทาง สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการวิ่งเทรล

   

นอกจากนักวิ่งจะได้สัมผัสกับประสบการณ์วิ่งเทรลที่สนุกสนานแล้ว ยังได้ซึมซับกับวัฒนธรรม และความเป็นมิตรไมตรีจากคนในพื้นที่ตลอดการจัดงานและการแข่งขันในครั้งนี้นักวิ่งทุกระยะยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล Over all ได้รับเงินรางวัล รางวัลละ 1,500 บาท รวม 6,000 บาทโดยมีนักวิ่งเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 250 คน คาดว่า จะเป็นการส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เพิ่มมากขึ้น