ขอนแก่น – มข.โดยศูนย์เซลล์บำบัดรักษา (Cellular Therapy Center) หน่วยงานวิสาหกิจ ภายใต้การกำกับของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำอันดันดับหนึ่งด้านธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ของไทย เพื่อผนึกกำลังสร้าง “ระบบนิเวศการพัฒนาเซลล์บำบัดรักษาที่สมบูรณ์แบบ แห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตั้งเป้าหมายเพื่อผลักดันนวัตกรรมการแพทย์เชิงฟื้นฟู (Regenerative Medicine) ให้เป็นการรักษาที่ได้มาตรฐานสากลระดับโลกที่ประชาชนเข้าถึงได้ พร้อมต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้สเต็มเซลล์ และเซลล์บำบัดรักษาอื่น ๆ สำหรับการรักษาโรคในอนาคต เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.30-12.30 น. ณ ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองฝ่าย ร่วมเป็นสักขีพยาน สะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมกันในการนำองค์ความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีระดับโลกมาสร้างประโยชน์สูงสุดต่อสังคม

ศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ แพทย์หญิงวิยะดา ปัญจรัก รักษาการผู้อำนวยการศูนย์เซลล์บำบัดรักษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจตุพร ดวงกำ รองผู้อำนวยการศูนย์เซลล์บำบัดรักษาและทีมผู้บริหาร ร่วมมือกับ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) นำโดยคุณจิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณกมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ว่าที่เรือตรีกันตพัฒน์ คเซนทร์ไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดและทีมผู้บริหาร ตกลงทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือร่วมกัน ทางด้านความร่วมมือในครั้งนี้ จะครอบคลุมไปถึงการพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ด้านเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเซลล์ต้นกำเนิด ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงและจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่เป็นมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังรวมถึงการจัดเวทีสัมนาทางวิชาการทางด้านเซลล์ต้นกำเนิด และเซลล์บำบัดรักษาร่วมกัน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านเซลล์ต้นกำเนิดและเซลล์บำบัดรักษาให้สามารถนำมาสู่การรักษาสำหรับผู้ป่วยต่อไป

ทั้งนี้ยังวางเป้าหมายในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการวิจัยพัฒนาต่อยอดในการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดประสิทธิภาพสูงสำหรับการส่งเสริมฟื้มฟื้นฟูสุขภาพ ซ่อมแซม และชะลอความเสื่อมของระบบต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเป็นเชิงการป้องกันก่อนที่จะเกิดโรคและพัฒนาเซลล์บำบัดรักษาสำหรับการรักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมต่าง ๆ จากกระบวนการชรา (aging process) รวมถึงงานวิจัยที่ใช้เซลล์ต้นกำเนิดในการรักษาใหม่ ๆ ร่วมกันต่อไปในอนาคตโดย “สเต็มเซลล์” (Stem cells) คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด และยังสามารถพัฒนาเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่จำเพาะอื่นๆได้ เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือด เซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพันเซลล์กระดูก และเซลล์ไขมัน เป็นต้น อีกทั้งยังมีความสามารถในการสร้างเซลล์เพื่อมาทดแทนเซล์เก่าที่เสื่อมสภาพหรือถูกทำลายไป เพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องมีกระบวนการคัดแยกและจัดเก็บที่ดีและได้มาตรฐาน ถึงจะสามารถนำเอาเซลล์ต้นกำเนิดที่มีคุณประโยชน์มาใช้ในการรักษาได้

ความร่วมมือในครั้งนี้ จักเป็นก้าวที่ สำคัญในการพัฒนาเซลล์บำบัดรักษาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ที่เป็นนวัตกรรมขั้นสูงกลับมาสู่ประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมถึงประชาชนชาวไทยต่อไป ด้านผู้อำนวยการศูนย์เซลล์บำบัดรักษา ซึ่งได้รับมอบหมายจากท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เป็นตัวแทนในการกล่าวถึงวาระอันเป็นก้าวสำคัญยิ่งในการทำความร่วมมือ ว่า เพื่อพัฒนาการรักษาด้วยนวัตกรรมเซลล์บำบัดรักษา ณ ขณะนี้ สำหรับวงการแพทย์ของไทยกำลังอยู่ จุดที่ก้าวสู่ยุคใหม่ทางการแพทย์ ยุคที่คำตอบของการรักษา ไม่ได้อยู่ในขวดยาอีกต่อไป แต่อยู่ใน ‘เซลล์’ ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดและทรงพลังที่สุดของชีวิต ภารกิจของ ศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ของเรานั้นชัดเจนมาโดยตลอด นั่นคือ การเป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นนำองค์ความรู้และงานวิจัยขั้นสูง มาพัฒนาให้เกิดเป็น ‘นวัตกรรมการรักษาที่ใช้ได้จริง’

เราไม่ได้เพียงแค่ทำวิจัย แต่เรามุ่งมั่นที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้จากห้องปฏิบัติการ มาสู่ข้างเตียงผู้ป่วย เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูร่างกายในระดับเซลล์ให้กับผู้คนที่เกิดจากโรคความเสื่อมต่างๆ ดังที่เราได้พัฒนาอย่างจริงจังในการนำเกล็ดเลือดคุณภาพสูง (Platelet rich plasma: PRP) มาใช้ในการรักษาและมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาภาวะต่างๆ และเรายังมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมการรักษาด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัดรักษาเพื่อการต่อสู้กับโรคมะเร็งให้มีความแม่นยำและจำเพาะเจาะจงสูง แต่การเดินทางบนเส้นทางที่ยิ่งใหญ่นี้ จะดีกว่า หากเรามีพันธมิตรที่สามารถส่งเสริมซึ่งกันและกัน ร่วมเดินทางบนหนทางที่ท้าทายนี้ไปด้วยกัน อันจะทำให้เราสามารถถึงเป้าหมายได้เร็วมากขึ้น และในวันนี้ เราได้พบกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และอุดมการณ์เดียวกัน นั่นคือ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด

ซึ่งบริษัท ไครโอวิวา ไม่ได้เป็นเพียงบริษัท แต่คือ ‘สถาบันแห่งความไว้วางใจ’ ที่ครอบครัวชาวไทยนับหมื่นครอบครัวได้ไว้วางใจมอบอนาคตและหลักประกันสุขภาพของบุตรหลานไว้ให้บริษัท ไครโอวิวา ดูแล ที่มีประสบการณ์ในการดำเนินงานมากว่า 20 ปี และเป็นบริษัทผู้บุกเบิกลำดับต้นๆ ในประเทศไทยในการจัดเก็บสเต็มเซลล์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ทั้งในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และได้รับรองมาตรฐานระดับโลกอย่าง AABB ที่เป็นเครื่องการันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดี ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของบริษัทไครโอวิวา ที่ไม่ใช่แค่การจัดเก็บเซลล์ ระบบมาตรฐาน ‘ธนาคารเซลล์’ เท่านั้น แต่เปรียบเหมือนการ ‘พิทักษ์เซลล์ต้นกำเนิดแห่งชีวิต’ รอวันที่จะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างประโยชน์ทางการแพทย์ในอนาคต และศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็คือผู้เชี่ยวชาญในด้าน ‘การปลดล็อกศักยภาพและการพัฒนาประยุกต์ใช้เซลล์’ เพื่อการรักษาทางการแพทย์

และนี่คือจุดที่ความร่วมมือของเราที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพย์ขั้นสูงระดับเซลล์ พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงที่จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญในวงการเซลล์บำบัดรักษาคุณจิรัญญา ประชาเสรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวแสดงความขอบคุณต่อศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น และผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติอย่างสูงในความอนุเคราะห์ร่วมมือและสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมด้านการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซลล์บำบัด เพื่อ “การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อยกระดับความรู้ด้านเซลล์ต้นกำเนิด” ส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) ซึ่งนับเป็นภารกิจสำคัญที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ของประเทศ

ศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นในการยกระดับองค์ความรู้จากงานวิจัยสู่การพัฒนาและถ่ายทอดนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของคณาจารย์และบุคลากร ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยที่มีศักยภาพสูง อันเป็นรากฐานที่สำคัญในการผลักดันองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และสาธารณประโยชน์ในวงกว้าง บริษัทไครโอวิวา มีความยินดีที่ได้มีโอกาสสร้างความร่วมมือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เซลล์บำบัดเพื่อส่งเสริมให้เกิดการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม และการยกระดับองค์ความรู้ ด้านเซลล์ต้นกำเนิด (Siem cell) ต่อไปในอนาคต จากเทคโนโลยีทางการแพทย์และการวิจัยที่ก้าวหน้า พร้อมทั้งเพิ่มองค์ความรู้และศักยภาพของผู้ผลิตและบุคลากร ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เซลล์บำบัด โดยทางไครโอวิวา ได้มีมาตรฐานมีความชำนาญการ และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสูง ด้านความชำนาญเฉพาะทางเซลล์บำบัดจากองค์กรนานาชาติ AABB หรือ Association for the Advancement of Blood and Biotherapies เพียงบริษัทเดียวในประเทศไทยครบทั้ง 3 ด้าน

ทั้งกระบวนการจัดเก็บสเต็มเซลล์ การคัดแยกและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ และการรับรองว่าเป็นแหล่งผลิตเซลล์ตั้งต้นที่มีคุณภาพ จนถึงการนำส่งไปศูนย์รักษา ตามความต้องการของผู้ฝาก ตลอดระยะเวลากว่า 18 ปี ไครโอวิวา ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ห้องปฏิบัติการของไครโอวิวาได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐาน GMP PIC/S สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapeutic Medicinal Products; ATMPs) ที่ให้บริการทั้งในและต่างประเทศ โดยมีสาขาห้องปฏิบัติการเครือข่ายในหลายประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม อินเดีย และ ประเทศไทยไครโอวิวา จึงมีความพร้อมในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในด้านเทคโนโลยีการผลิต การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการวิจัย และการจัดกิจกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรในระบบสุขภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน ไครโอวิวา มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า

ความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเป็น รูปธรรม ทั้งในด้านการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในอนาคต นวัตกรรมสเต็มเซลล์อาจช่วยลดภาระระบบสาธารณสุข ตลอดจนการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ผ่านการพัฒนาบริการทางการแพทย์ขั้นสูง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค (Medical Hub) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism)
ท้ายที่สุดนี้ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด ขอแสดงความขอบพระคุณอย่างสูงอีกครั้ง ต่อศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ให้เกียรติและไว้วางใจให้บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในความร่วมมืออันทรงคุณค่าในครั้งนี้.