แพทย์ทหารแนะ “ให้ตระหนักถึงอันตรายของสารหนู หากร่างกายได้รับในปริมาณที่สูง”
แพทย์ทหารแนะ “ให้ตระหนักถึงอันตรายของสารหนู หากร่างกายได้รับในปริมาณที่สูง”
     จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  พบว่า สารหนู (Arsenic) เป็นโลหะที่พบได้ในธรรมชาติ โดยเฉพาะในน้ำใต้ดิน หรือพื้นที่อุตสาหกรรม เช่น เหมืองแร่ หากร่างกายได้รับสารหนูในปริมาณสูง หรือสะสมต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบผิวหนัง หากได้รับสารหนูในระยะเฉียบพลัน อาจส่งผลต่อผิวหนัง เช่น ผิวแดง คัน บวม หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณมือและเท้า บางรายอาจมีอาการลมพิษ รวมถึงมีแถบสีขาวบนเล็บ (Mee’s lines) ซึ่งมักปรากฏภายหลังการสัมผัสสารหนูประมาณ 8 สัปดาห์
ซึ่งการได้รับสารหนูในระยะยาว อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น ผิวคล้ำหรือเข้มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า โดยอาจมีจุดสีซีดแทรกอยู่บนผิวคล้ำ เรียกว่า “Raindrop on a dusty road” และอาจพบอาการผมร่วงร่วมด้วย หรือตุ่มนูนแข็งสีเหลืองคล้ายเมล็ดข้าวโพด (Arsenical keratoses) บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ในบางรายอาจพบความผิดปกติที่ขา หรือโรคที่เรียกว่า “เท้าดำ” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือด หากมีข้อสงสัยหรือพบอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้ โดยมีการตรวจระดับสารหนูในเลือด ปัสสาวะ เส้นผม หรือเล็บ โดยค่าปกติในเลือดอยู่ที่ 0–13 ไมโครกรัม/ลิตร และในปัสสาวะ 0–35 ไมโครกรัม/ลิตร หากตรวจพบเกินเกณฑ์ แพทย์อาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง
     ในการนี้ พลโท กิตติพงษ์  แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 และคณะแพทย์ทหาร มีความห่วงใยจากภัยดังกล่าว ต่อข้าราชการทหาร ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 รวมทั้งพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้แหล่งน้ำดื่มที่สะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และหมั่นสังเกตสุขภาพของตนเอง หากมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์ทันที เพื่อรับการดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
     จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพภาคที่ 3 โดย โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชน ในยามวิกฤตทุกโอกาส
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว