บช.น. แถลงการจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในเคหสถานโดยมีอาวุธท้องที่ สน.บางชัน
ตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปรามจับกุมกลุ่มคนร้ายก่อเหตุประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยทั่วไป และคดีที่เป็นที่น่าสนใจของประชาชน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่องมาตลอดนั้น
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพง์์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์, พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม และ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.น. ได้กำชับสั่งการให้ทุกหน่วย เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่ก่อเหตุ ในลักษณะดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา
กองบังคับการตำรวจนครบาล ๔ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.๔, พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ ขลิบเงิน, พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์, พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม, พ.ต.อ.สมบัติ หงส์ทอง รอง ผบก.น.๔, พ.ต.อ.พิชิต กอปรกิจงาม ผกก.สน.บางชัน , พ.ต.อ.สิทธิ์ักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.๔, ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน นำโดย พ.ต.ท.อภิชาติ อุตรมาตย์ รอง ผกก.สส.สน.บางชัน ,พ.ต.ต.ไมตรี กิ่งสกุล สว.สส.สน.บางชัน , ร.ต.อ.วรพล วารีดี , ร.ต.อ.สันติ เลี้ยงประยูร , ร.ต.ท.จำเนียร ขันแดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.๔ นำโดย พ.ต.ท.กนก รอดสำราญ รอง ผกก.กก.สส.บก.น.๔ , พ.ต.ท.ประลอง พรหมศร รอง ผกก.กก.สส.บก.น.๔ , พ.ต.ท.สิโณทัย ลิลิตธรรม รอง ผกก.กก.สส.บก.น.๔ , พ.ต.ต.เจษน์สฤษฎิ์ เตชาภัทรทวีโชติ สว.กก.สส.บก.น.๔ , ร.ต.อ.นลิน มีสมสิบ , ร.ต.อ.เดชาชัย สุขีรัตน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.๔ , ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา นายศรวิศิษฐ์ หรือดำ นกทอง อายุ ๒๙ ปี ( ๒-๗๓๐๖-๐๐๐๑๐-๓๔-๗ ) ที่อยู่บ้านเลขที่ ๓๕/๓ หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าตลาด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ฐานความผิด “ชิงทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อมิให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ” (ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.๑๖๐/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ภายในบ้านเลขที่ ๘ ซอยรามคำแหง ๑๑๘ แยก ๔๘-๓ แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น.สถานที่จับกุม ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนเพชรเกษม เลขที่ ๘๐/๑-๒ หมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านนา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร พร้อมด้วยทรัพย์สินตรวจยึด ๑. เงินสด จำนวน ๒,๐๒๒ บาท (อยู่ในกระเป๋าใส่เงินของผู้ถูกจับ) ๒. ธนบัตรไทยรุ่นเก่าสำหรับสะสม ฉบับละ ๕๐ บาท จำนวน ๖ ฉบับ รวมมูลค่า ๓๐๐ บาท ๓. ธนบัตรไทยรุ่นเก่าสำหรับสะสม ฉบับละ ๒๐ บาท จ านวน ๓๐ ฉบับ รวมมูลค่า ๖๐๐ บาท ๔. ธนบัตรไทยรุ่นเก่าสำหรับสะสม ฉบับละ ๑๐ บาท จำนวน ๑ ฉบับ รวมมูลค่า ๑๐ บาท ๕. เหรียญต่างประเทศ สกุลเงินยูโร มูลค่า ๒ ยูโร จำนวน ๒ เหรียญ ๖. เหรียญต่างประเทศ สกุลเงินยูโร มูลค่า ๑ ยูโร จำนวน ๒ เหรียญ ๗. นาฬิกาข้อมือมัลติสปอร์ต ยี่ห้อ Suunto รุ่น Suunto ๙ จำนวน ๑ เรือน ๘. กำไลข้อมือสีเงิน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จำนวน ๑ อัน ๙. แว่นตาดำกันแดด จำนวน ๑ อัน ๑๐. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Oppo รุ่น F๒ สีขาว หมายเลขโทรศัพท์ ๐๖๒-๕๒๘-๖๔๒๖ จ านวน ๑ เครื่อง
๑๑. กระเป๋าสะพายข้าง สีดำ จำนวน ๑ ใบ ๑๒. กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงินเข้ม จำนวน ๑ ตัว พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ได้รับแจ้งจาก นางเพ็ญแข สรโชติ อายุ ๗๗ ปี (๓-๑๐๐๙-๐๓๖๘๔-๙๒-๐) ผู้เสียหาย ว่าเมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. ได้มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ สูงประมาณ ๑๗๐ ซม. ผิวดำแดง ผมรองทรง สำเนียงภาคกลาง สวมเสื้อเชิ้ตยีนส์สีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ขายาว สะพายกระเป๋าสะพายสีดำ ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ได้ปีนกำแพงรั้วเข้ามาภายในบ้านที่เกิดเหตุ โดยเมื่อคนร้ายพบผู้เสียหายได้ใช้อาวุธมีดข่มขู่ผู้เสียหายว่าจะทำร้ายร่างกายและบังคับให้เข้าไปในห้องเก็บของแล้วใช้เสื้อยืดมัดแขนผู้เสียหายไขว้หลังติดกับเก้าอี้ จากนั้นคนร้ายจึงได้ทำการรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านที่เกิดเหตุต่อ ระหว่างที่คนร้ายกำลังรื้อค้นทรัพย์สิน ผู้เสียหายได้พยายามดิ้นจนหลุดจากพันธนาการจึงได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายจึงได้ตกใจวิ่งหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สินที่ค้นได้ต่อมาผู้เสียหายได้แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุผลการตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินเป็นเงินสดสกุลบาทไทยประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท เงินสดต่างประเทศรวมประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท และแหวนทองคำน้ำหนัก ๑ สลึง จำนวน ๑ วง ได้ถูกคนร้ายลักเอาไป จากการตรวจสอบภายในบ้านเพิ่มเติมพบมีดสั้นยาวประมาณ ๑ ฟุต จำนวน ๑ เล่ม และไขควง จำนวน ๑ อัน ตกอยู่ภายในบ้าน และพบรองเท้าสีน้ำตาลของคนร้ายที่ถูกถอดทิ้งไว้ภายในห้องเก็บของ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐานในคดี โดยภายหลังเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้มีการเข้าไปซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้ต้องหาได้เดินเท้าไปยังบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีการเดินวนเวียนอยู่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุจำนวนหลายรอบสังเกตุว่าบ้านไหนไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน โดยดูจากการล๊อคประตูหน้าบ้าน และได้มีการปีนเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุและได้ทำการก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าว จากนั้นผู้ต้องหาได้ปีนออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ และได้มีการถอดเสื้อคลุมทิ้งไว้ภายในป่าบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เหลือแต่เสื้อยืดสีขาวด้านใน แล้วจึงหลบหนีไปเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวนและพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ ตามหมายจับที่ จ.๑๖๐/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่านายศรวิศิษฐ์หรือดำฯ ผู้ต้องหา หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณตำบลบ้านนา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร จึงได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวจนสามารถจับกุมนายศรวิศิษฐ์หรือดำฯ ได้ที่บริเวณภายในปั๊ม ปตท.ริมถนนเพชรเกษม เลขที่ ๘๐/๑-๒ หมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านนา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร พร้อมด้วยของกลางดังกล่าวข้างต้น จากการซักถามนายศรวิศิษฐ์หรือดำฯ ยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าวจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามสาเหตุในกระทำความผิด “ประสงค์ต่อทรัพย์”จากการตรวจสอบพบประวัติการกระทำความผิด “พบว่าเคยต้องโทษในความผิดฐานลักทรัพย์รวมจำนวน ๗ ครั้ง” อนึ่ง จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่าเคยมีประวัติการกระทำความผิดมาแล้ว ดังนี้ ๑. ถูก จับกุมข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ” ตามคดีอาญาที่ ๖๒๒/๒๕๕๒ ของ สภ.สามพราน จว.นครปฐม ๒. ถูกจับกุมข้อหา “พยายามลักทรัพย์” ตามหมายจับ์าลจังหวัดนครปฐม ที่ ๕๕๐/๒๕๕๓ ลงวันที่๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ (ตามคดีอาญาที่ ๗๙๓/๒๕๕๓) ของ สภ.สามพราน จว.นครปฐม ๓. ถูกจับกุมข้อหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ” ตามคดีอาญาที่ ๘๒๔/๒๕๕๓ ของ สภ.สามพราน จว.นครปฐม ๔. ถูกจับกุมข้อหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ” ตามคดีอาญาที่ ๘๕๔/๒๕๕๓ ของ สภ.สามพราน จว.นครปฐม ๕. ถูกจับกุมข้อหา “ลักทรัพย์” ตามคดีอาญาที่ ๘๖๘/๒๕๕๓ ของสภ.สามพราน จว.นครปฐม ๖. ถูกจับกุมข้อหา “ลักทรัพย์” ตามคดีอาญาที่ ๘๖๙/๒๕๕๓ ของ สภ.สามพราน จว.นครปฐม ๗. มีหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.๔๕๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ” ตามคดีอาญาที่ ๘๖๘/๒๕๖๑ ของ สภ.โพธิ์แก้ว จว.นครปฐม (ยังไม่ถูกจับกุม)
ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น. รายงาน